#

เปิดตำนาน!!! 4 ยอดขุนโจรในอดีตของไทย ที่จากคนธรรมดา กลับกลายเป็นมหาโจรที่คนทั่วประเทศรู้จัก!!!

เปิดเผยเรื่องราวของสุดยอดขุนโจรในตำนานทั้ง 4 คน ที่เป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศไทย เมื่อสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยที่ส่วนมากก็เป็นโจรเพราะความจำเป็น งานนี้จึงมีทั้งคนรักและคนหวาดกลัวมากพอกัน

1.“เสือดำ”
 “เสือดำ”หรือ”หลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินธโร” เป็นขุนโจรชื่อดังร่วมสมัยกับ เสือใบ, เสือฝ้าย และ เสือมเหศวร มีชื่อจริงว่า “ระพิน” ได้ชื่อว่าเสือดำ จากการสวมชุดดำเวลาออกปล้นจะสวมชุดดำพร้อม ปืนคู่ โดยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเสือดำ เวลาออกปล้นคือจะต้องประกาศให้เจ้าทรัพย์รู้ก่อนล่วงหน้าเป็นสัปดาห์โดยใช้แผ่นประกาศไปติดที่บริเวณหน้าหมู่บ้านโดยรอบ ปล้นด้วยความสุภาพไม่ทำร้ายเจ้าทุกข์ นิยมปล้นแต่คนรวยให้คนยากจน เมื่อถึงเวลาลงมือจะยิงปืนขึ้นฟ้า 3 นัด ให้คนในหมู่บ้านรู้ว่ามาปล้นแล้ว และจะนำกระสอบไปวางตามจุดต่างๆเพื่อให้ชาวบ้านนำทรัพย์สินมาใส่ ป้องกันเหตุ “นองเลือด” เวลาทำงาน หรือ “ฤกษ์ปล้น” คือ ตั้งแต่แสงอาทิตย์ลับขอบฟ้า จนถึงแสงอาทิตย์ขึ้นเหนือฟ้าอีกครั้งก็เก็บกระสอบกลับออกไป จนได้รับฉายาว่า สุภาพบุรุษเสือดำ เช่นเดียวกับ เสือใบ แต่แล้วเสือดำ ถูกปราบได้ด้วย ขุนพันธรักษ์ราชเดช มือปราบชื่อดังโดยขุนพันธ์ฯให้โอกาสเสือดำกลับตัว เสือดำจึงไปบวช เสือดำก็ได้บวชมาจนปัจจุบัน

2. “เสือมเหศวร”

“เสือมเหศวร”มีชื่อจริงว่า ศวร เภรีวงษ์ เป็นชาวจังหวัดสุพรรณบุรี แต่เดิมเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ๆ ถูกใส่ร้ายว่าฆ่าพ่อตัวเอง จึงจับปืนขึ้นต่อสู้และกลายมาเป็นจอมโจรชื่อดังในที่สุด โดยได้ชื่อว่า “มเหศวร” จากการแขวนพระเครื่องมเหศวรไว้ที่คอ ซึ่งได้ชื่อว่าช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัย และเมื่อเวลาออกปล้นจะปล้นด้วยความโหดเหี้ยมจนได้รับฉายาว่า “จอมโจรมเหศวร” เคยโดนตำรวจยิงที่ลำตัวและศรีษะหลายนัดแต่ไม่เข้าจึงเป็นที่เล่าลือว่าเป็นจอมขมังค์เวทย์ผู้หนึ่ง แต่แล้วเสือมเหศวรถูกปราบโดยขุนพันธรักษ์ราชเดช ซึ่งขุนพันธ์ ฯ เป็นผู้เกลี้ยกล่อมให้เสือมเหศวรมอบตัวเพื่อรับโทษตามกฎหมาย
       เสือมเหศวรเสียชีวิตด้วยโรคชราในวัย101ปี ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2557

3. เสือใบ
“เสือใบ”มีชื่อจริงว่า นายใบ สะอาดดี เป็นอีกเสือร่วมยุคเดียวกับ เสือดำ,เสือฝ้าย,เสือมเหศวรที่โด่งดัง โดยก่อนที่จะมาเป็นโจรนั่นเสือใบประกอบอาชีพเป็นชาวนาอยู่จังหวัดสุพรรณบุรี แต่แล้วก็ถูกโจรกลุ่มเดิมๆปล้นบ้านถึง2ครั้ง โดยครั่งเเรกก็ไม่ได้คิดเเค้นอะไรเพราะไม่มีใครบาดเจ็บหรือล้มตาย แต่การถูกปล้นครั้งที่2ถือเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเนื่องจาก “น้องเมีย”ของเสือใบนั้นถูกฉุดไปด้วย จึงเกิดความเเค้นตามไปฆ่าโจรกลุ่มนั้นถึง4คน ทำให้ต้องถูกทางการตามล่าต้องหนี ไปอยู่ป่าด้วยความไม่มีจะกินทำให้ต้องเริ่มออกปล้น จนมีลูกน้องติดตามถึง40คนจึงได้เข้าไปเป็นโจรใน”ซุ้มของเสือดำ” ซึ่งพื้นที่ในการปล้นจะอยู่ในพื้นที่ จังหวัดอ่างทอง,สิงห์บุรีและชัยนาท แต่จะไม่ไปยุ่งในจังหวัดสุพรรณบุรีเนื่องจากเป็นเขตของเสือดำ ซึ่งเสือใบจะเหมือนกับเสือดำตรงที่เลือกปล้นเฉพาะคนรวยหน้าเลือดที่ได้เงินมาจากการ “โกง” คนจน คนรวยที่มีคุณธรรมช่วยเหลือชาวบ้านจะไม่ปล้น และการปล้นแต่ละครั้งจะไม่เอาทรัพย์สินหมด เอาครึ่งเดียว ใช้วิธีปล้นแบบขอเจ้าทรัพย์ สิ่งไหนเจ้าทรัพย์ไม่ให้ก็ไม่เอาและห้ามทำร้ายเจ้าทรัพย์เด็ดขาด จึงได้ถูกขนานนามว่าเป็น”สุภาพบุรษเสือใบ”เช่นเดียวกับเสือดำ

   แต่เเล้วเสือใบก็ถูก ผู้กองยอดยิ่ง สุวรรณากร ปราบลงได้ และถูกศาลตัดสินประหารชีวิต แต่เสือใบรับสารภาพ ศาลจึงลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ต่อมาได้รับการอภัยโทษเหลือจำคุก 20 ปี แต่ขณะถูกคุมขังมีพฤติกรรมดี โดยวันหนึ่งมีนักโทษชายคนหนึ่งใช้มีดจะทำร้ายผู้คุม เสือใบเข้าไปช่วยเหลือ เลยได้ลดโทษและออกมาจากคุกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง

4. “เสือฝ้าย”
เสือฝ้ายมีชื่อจริงว่า นายฝ้าย เพ็ชนะ เป็นชาวจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นขุนโจรชื่อดังในแถบภาคกลางหลังยุคสงครามโลกครั้งที่2 ร่วมสมัยกับ เสือดำ เสือใบและเสือมเหศวร มีฉายาว่า “พ่อเสือ” บ้าง “จอมพลเสือฝ้าย”
  ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นหัวหน้าขบวนการเสรีไทยที่สุพรรณบุรีปะทะกับกองทัพญี่ปุ่น จนได้รับฉายาว่า “จอมพลฝ้า่ย”
และได้เป็นผู้ใหญ่บ้าน ถูกพิพากษาให้เป็นบุคคลอันตรายต่อชุมชนและรัฐ ฐานกระทำความผิดร้ายแรงในข้อหาพาผู้ร้ายหลบหนี เพราะถูกใส่ร้าย โดยหลานเขย ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตำรวจ ต้องโทษทุกข์ทรมาน8ปีในสถานกักขัง ซึ่งมีสภาพทรุดโทรม จากความผิดที่ไม่ได้ก่อ เจ้าตัวจึงปวารณาไว้ว่า “เมื่อรัฐเล่นตลกกับข้า ข้าก็จะสร้างเสียงหัวเราะให้พวกมัน!”และได้ผันตัวเป็นเป็นโจรในที่สุด
    การปล้นของเสือฝ้าย จะจงใจปล้เศรษฐี ผู้มีอำนาจในท้องถิ่น ประเภทฉ้อโกง ขูดรีด และอาศัยอำนาจในการทำให้ตัวเองร่ำรวย นี่คือเป้าหมายของ เสือฝ้าย จึงเป็นที่รักของชาวสุพรรณต่างพร้อมใจปกป้องเสือฝ้าย โดยการบิดเบือนข้อมูลหรือให้การเท็จกับตำรวจ กลุ่มของเสือฝ้ายเป็นกลุ่มโจรที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่เคยมีมาคือมีพรรคพวกถึง200คนเมือ่เทียบกับกลุ่มอื่นที่มีสมาชิคเพียงไม่เกิน50คน
  ในปี พ.ศ. 2489 เสือฝ้ายได้ช่วยเหลือทางการในการปราบปรามชุมโจรอื่น ๆ และเข้ามอบตัวในที่สุด แต่แล้วในระหว่างทางที่เสือฝ้ายถูกควบคุมตัวไปกรุงเทพฯ เสือฝ้ายได้ถูกนายร้อยตำรวจเอกที่ควบคุมตัวกระทำวิสามัญฆาตกรรมที่วัดโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทองซึ่งตามปกติแล้วจะต้องนำศพไปทำพิธี แต่ทว่าทางตำรวจจงใจทิ้งศพของเสือฝ้ายให้ลอยขึ้นอืดสามวันสามคืน เพื่อให้ชาวบ้านได้มาเห็นตำตาต่อความพ่ายแพ้ที่โจรมีต่อตำรวจ
ประเภท : วาไรตี้
ที่มา : ที่มา:wikipedia,postjung,sanook.com
ถัดไป
« Prev Post
บทความที่เก่ากว่า หน้าแรก
Next Post »