จากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมานอกชายฝั่งเกาะสุมาตรา ของอินโดนีเซีย ขนาด 7.9 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองปาดัง ของอินโดนีเซีย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ต่อมา ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติของไทย ประกาศเตือนภัยสึนามิ ก่อนที่ทั้งหมดจะยกเลิกประกาศดังกล่าว มีนักวิชาการหลายท่านออกมาให้ข้อมูลว่า จากเหตุแผ่นดินไหว มีความเป็นไปได้น้อยที่จะเกิดสึนามิ เนื่องจากจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวไม่ได้อยู่บริเวณรอยต่อแผ่นเปลือกโลก
โดย อ.ปิยะชีพ ส. วัชโรบล นักวิชาการอิสระด้านภัยพิบัติ เครือข่ายรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินภาคประชาชน ได้ให้ความเห็นต่อเหตุการณ์ดังกล่าวว่า
"ขณะนี้ มีแผ่นดินไหวตาม หรืออาฟเตอร์ช็อก หลังจากเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.9 แล้วทั้งหมด 4 ครั้ง โดยครั้งที่รุนแรงที่สุดอยู่ที่ขนาด 5.7 ที่ความลึก 30 กิโลเมตร โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 772 กิโลเมตร ส่วนการเกิดสึนามินั้นคงไม่มี เนื่องจากการเกิดคลื่นยักษ์ดังกล่าว จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวต้องอยู่ในบริเวณใกล้รอยต่อแผ่นเปลือกโลกไม่เกิน 100 ไมล์ ที่ระดับความรุนแรงมากกว่า 8.0 ขึ้นไป ด้วยการเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง ในขณะที่เหตุการณ์เมื่อคืนนั้น แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นมีความรุนแรง 7.9 และอยู่ห่างจากรอยต่อแผ่นเปลือกโลกราว 300 ไมล์ จึงมีความเป็นไปได้น้อยที่จะเกิดสึนามิ"
ความเป็นไปได้ว่าประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวหรือไม่ด้าน อ.ปิยะชีพอธิบายว่า หากเกิดแผ่นดินไหวขึ้นอีกในจัดเดิม คงไม่มี ผู้ที่ได้ผลกระทบ ควรจับตามองฟิลิปปินส์ มาเลเซีย โดยเฉพาะหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์
ในช่วงวันที่ 8 - 9 มี.ค.นี้ จะมีปรากฏการณ์สุริยุปราคาคือ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลกจะ เรียงตัวกันเป็นเส้นตรง อาจทำให้มีผลกระทบต่อแรงดึงดูด ประจวบกับภูเขาไฟบาเรน ซึ่งอยู่ใกล้กับหมู่เกาะนิโคบาร์ ที่ยังคงคุกรุ่นนั้น กลับนิ่งมานานกว่า 1 ปีแล้ว ก็มีความเป็นไปได้สูงที่บริเวณดังกล่าวจะปลดปล่อยพลังงานออกมาอีกรอบ
ส่วยในประเทศไทยนั้น มีโอกาสที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.0 ริกเตอร์ขึ้นไปได้อีก อยากให้ประชาชนเฝ้าระวังกันและไม่ควรนิ่งนอนใจ เหตุการณ์แผ่นดินไหวไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้า แต่เราดูได้จากปัจจัยหลายอย่างที่เตือนล่วงหน้าได้ เหมือนอย่างในประเทศญี่ปุ่น มีการเตือนล่วงหน้าราว 1 - 2 นาทีทางโทรทัศน์และข้อความในโทรศัพท์มือถือและยังสังเกตได้จากปฏิกิริยาของสัตว์รอบตัว รวมถึงน้ำทะเล ถึงแม้ในกรุงเทพไม่ใช่ศูนย์กลางเกิดแผ่นดินไหว แต่มีโอกาศรับผลกระทบได้เช่นกัน หากเป็นเช่นนั้นแนะนำว่า อย่าตกใจ ให้หลบลงใต้โต๊ะ หรือใต้เตียง เพราะที่ผ่านมาสาเหตุแรกที่ทำให้ผู้คนเสียชีวิตมาจากการเหยียบกันตายต่างแย่งกันหนีออกจากพื้นที่