อ่านแล้วน้ำตาไหล!! เมื่อรู้ว่า พลทหาร ที่โดนซ้อมจนเสียชีวิต นั้นเป็นใคร?? น่าเสียดายสุดๆ!!(มีภาพ)
เป็นข่าวโด่งดังที่มีการแชร์ภาพกันสนั่นโซเซียล กับพลทหารที่โดนซ้อมจนตาย เมื่อรู้ประวัติที่ผ่านมาของเขาแล้วน่าเสียดายสุดๆ
โดยนายวิเชียร เผือกสม เป็นชาว อ.หาดใหญ่ เรียนจบชั้นม.6 ตัดสินใจบวชเรียนเป็นพระภิกษุสงฆ์และได้มาศึกษาต่อ ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จนได้รับเกียรตินิยมอับดับหนึ่ง คณะพุทธศาสตร์ สาขาวิชา ศาสนา และศึกษาต่อ ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขา สังคมศาสตร์ คณะพัฒนาชุมชนมหาบัณฑิต ผ่านไป 8 ปี จึงกล่าวลาสึก ขอไปรับใช้ชาติสมัครเป็นพลทหาร ใน ในจังหวัดนราธิวาส
เมื่อวันที่ 1 เม.ย.54 จุดเริ่มต้นของของคำว่าทหาร ได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น เพราะนั้นคือความตั้งใจสุดท้ายของชีวิต ของนายวิเชียร เผือกสม
ในช่วงเช้าของวันที่ 5 มิถุนายน 2554 มีโทรศัพท์จากทาง โรงพยาบาลโทรมาหาแม่ ว่า ลูกชายมีอาการโคม่ารักษาตัวอยู่ในห้อง ICU ให้รีบมาหาด่วน เพราะนายวิเชียรได้สั่งเสียกับหมอไว้ ด้วยความตกใจ จึงโทรไปสอบถามที่ ค่ายทหาร แต่ทางค่ายกลับให้การว่า "พลทหารวิเชียร ฝึกอยู่ สบายดี ไม่ต้องเป็นห่วงแต่อย่างใด " แม่ก็ยังไม่สบายใจ รีบเดินทางไปหาลูก โรงพยาบาล เห็นลูกชายนอนนิ่งอยู่ถึงกับจำไม่ได้ เพราะสภาพร่างกายเขียวทั้งตัว มีแผลฟกช้ำ มีรอยไหม้ ตัวบวมอย่างม าก จากนั้นแม่ก็นำร่างของลูกชายกลับบ้านเกิดที่หาดใหญ่
ผลจากการชันสูตรพลิกศพพบว่า ถูกตีด้วยของแข็งจน ฟันหัก ซี่โครงเดาะ ร่างกายมีบาดแผลฟกช้ำเหมือนถูกทุบตีด้วยของแข็ง จนทำให้มีอาการไตวายเฉียบพลัน ทางญาติรอคำตอบจากค่าที่ลูกชายสังกัดอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ทาง ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในสังกัด ร.151 พัน 3 ยื่นข้อเสนอว่า ให้เงินเยียวยา 5 แสนบาท และให้ธงชาติคลุมศพ รวมถึงขอไฟพระราชทานเพลิงศพ แต่ทางครอบครัวขอไม่รับ และดำเนินคดีทางเพ่งและอาญาต่อไป
เบื้องต้นทราบว่า มีผู้กระทำผิดทั้งหมด 10 นาย มียศ ร้อยโท ร้อยตรี จ่าสิบเอก สิบโท ผู้ช่วยครูฝึก และพลทหาร 5 นาย โดยผุ้ที่ลงมือทำร้ายร่างการให้การว่า พลทหารวิเชียร เผือกสม หนีออกจากค่ายทหาร 2 ครั้งจึงลงโทษเพื่อจัดระเบียบวินัยด้วยการตบหน้า 2 ที ให้กินพริกสด และ ใส่กางเกงในตัวเดียว จากการสอบสวนเชิงลึกทราบความว่า มีใช้รองเท้าคอมแบทกระทืบ จับถอดใช้แซ่ฟาด จนไม้หักไป3ทอน มีการลากกับพื้นปูนจนมีแผลถลอกแล้วเอาเกลือทาด้านนายทหารยศร้อยโทที่เห็นเหตุการณ์บอกว่าให้ทำไปทำที่อื่น อย่างเสียงดัง แต่ล่าสุดบทลงโทษกับทหาร 10 นาย มีเพียงการพักราชการเท่านั้น ส่วนนายทหารยศร้อยโทยังปฏิบัติหน้าที่ทางราชการอยู่
จนถึงวันนี้ เวลาผ่านไป 4 ปี สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของรัฐได้ชี้มูลความผิด ให้ชดใช้ความเสียหายเป็นคดีทางเพ่ง และส่งฟ้องเป็นคดีอาญา ทางครอบครัวได้รับค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 7,049,400 บาท
ทางญาติๆอยากให้กรณีนี้เป็นคดีตัวอย่างควรอบรมณ์ครูฝึกบ้างเพื่อความปลอดภัยให้พลทหารฝากอย่านำพฤติกรรมรุนแรงมาลงที่ทหารเกณฑ์ ควรใส่ใจกำลังพลของชาติ เพราะไม่อยากให้ลูกให้หลานของตนในภายหน้าเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก สุดท้ายอยากจะบอกว่า เงิน 7ล้านบาทไม่สามารถทดแทนคนในครอบครัวได้ ชีวิตซื้อด้วนเงินไม่ได้ ไม่ว่าเขาจะจบ ป.6 หรือปริญญาโท อยากให้กองทัพทบทวนไม่อยากให้ลูกตน หลานตน ในอนาคต ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้อีก…